วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2560

มื้อเย็นไม่ต้องอดก็ลด(น้ำหนัก)ได้


         อาหารในแต่ละมื้อ ไม่ว่าจะเป็น มื้อเช้า มื้อกลางวันและมื้อเย็น ล้วนมีความสำคัญต่อร่างกาย หากเพียงแค่เราเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกอาหารรับประทานให้เหมาะสมในแต่ละมื้อ ก็จะช่วยให้สาวๆทุกท่านสามารถควบคุมน้ำหนักได้อย่างแน่นอน

          แต่สาวๆหลายท่านมักจะคิดว่าการอดอาหารเย็น เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วย “ลดน้ำหนัก” แต่เชื่อหรือไม่ว่า จริงๆแล้ว การลดน้ำหนักไม่จำเป็นต้องอดอาหารเย็นก็ได้นะคะ วันนี้เราจึงมีวิธีเกี่ยวกับการทานอาหารเย็นอย่างไรไม่ให้อ้วน ทานได้โดยไม่ต้องอดอาหาร ทำให้สาวๆมีความสุขในช่วงเวลาของการลดน้ำหนัก ไม่ต้องทรมานกับอาการหิว และโปรแกรมการลดน้ำหนักไม่ต้องล้มเลิกกลางคันอีกด้วย มีวิธีไหนกันบ้างนั้น สาวๆตามไปดูกันเลยคะ


1.ห้ามอดแต่ให้ลดปริมาณ เลือกทานให้เหมาะกับมื้อ

          ในช่วงเวลาเย็น ร่างกายไม่มีความจำเป็นต้องใช้พลังงานมากนัก ดังนั้นอาหารที่ควรทานในมื้อเย็นจึงไม่ควรเป็นอาหารที่ให้พลังงานมาก อย่างอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต หรือไขมัน ควรหลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณการทานให้น้อยลงคะ เช่น อาหารประเภทแป้ง ของมัน ของทอด เป็นต้น 

          หากบางท่านชอบทานข้าวในมื้อเย็น อาจจะลดปริมาณข้าวลงกว่าปกติคะ จากเคยทาน 2 ทัพพี ก็ให้เหลือแค่ 1 ทัพพีหรือครึ่งทัพพีก้ได้ หรือเปลี่ยนจากข้าวขาว เป็นข้าวกล้องแทนก็ได้คะ 

         กับข้าวก็ในเลือกเป็นต้มจืดใส่ผักเยอะๆ ประเภทแกงเลียง หรือเกาเหลาก็ได้คะ งดอาหารที่มีรสจัด หรืออาจจะเลือกทานเป็นเมนูอื่นก็ได้เช่น สลัดน้ำใสเลือกผักสลัดให้หลากหลาย แต่ให้เน้นผักใบเขียว ปลานึ่งหรือเปล่าเผาที่มีผักแกล้มเยอะๆ เป็นต้น ในมื้อเย็นควรทานอาหารแค่พออิ่มนะคะ ไม่ต้องเสียดายของคะ


2.เลือกทานผักผลไม้

          ผักผลไม้ที่แนะนำให้ทานในช่วงเย็น แนะนำเป็นผลไม้ที่มี วิตามินซี มีกากใย ผลไม้ที่ไม่มีรสหวานมาก เช่น ส้ม มะละกอ สับปะรด แก้วมังกร แอปเปิ้ล ฝรั่ง แตงโม ชมพู่ สตรอเบอรี่ กี่วี ซึ่งเลือกทานได้ตามฤดูกาลเลยคะ ส่วนผักก็แนะนำ เป็นผักใบเขียว เช่นผักบุ้ง ผักคะน้า หรือผักสลัดหลากลายชนิด หลีกเลี่ยงผักประเภทที่เป็นหัวเพราะจะมีแป้งนะคะ เช่น แครอท น้ำเต้า ข้าวโพด มันฝรั่ง เป็นต้น


3.ดื่มน้ำเปล่า แทนน้ำหวาน น้ำอัดลม

         บางท่านมักจะติดการดื่มน้ำหวาน น้ำอัดลม ร่วมในมื้ออาหาร รู้หรือไม่การทำแบบนี้เป็นประจำอาจจะทำให้อ้วนได้ง่าย และลดน้ำหนักได้ยากอีกด้วยคะ จึงอยากให้สาวๆ หันมาดื่มน้ำเปล่าดีกว่า เพราะน้ำเปล่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยในการล้างสารพิษในร่างกาย แล้วยังช่วยให้ผิวสดใสเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล และที่สำคัญไม่ทำให้อ้วนอีกด้วย

         น้ำเปล่าที่เหมาะสมต่อการดื่มคือ น้ำสะอาด และมีอุณหภูมิห้องคะ แนะนำถ้าสาวๆท่านใดอยู่ในช่วงของการลดน้ำหนัก แนะนำให้ดื่มน้ำก่อนมื้ออาหาร 1-2 แก้วคะ จะช่วยให้ทานอาหารได้น้อยลง อิ่มเร็วขึ้น


4.งดสังสรรค์แอลกอฮอล์

         หากอยู่ในช่วงของการลดน้ำหนัก หรือใครที่ไม่ต้องการให้หน้าท้องที่เคยแบนราบ กลายเป็นพุงย้วย หน้าท้องยื่นละก็ ควรงดหรือลดการดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยลง *เพราะแอลกอฮอล์ให้แคลอรี่ได้สูงมาก ถึง 7 กิโลแคลอรี่ต่อกรัมเมื่อเทียบกับแป้งที่ให้แค่ 4 กิโลแคลอรี่หรือไขมันที่สูงถึง 9 กิโลแคลอรี่ต่อกรัม ดื่มบ่อยๆอาจจะทำให้อ้วนได้ หากต้องการสังสรรค์อาจจะมีบ้างเดือนละ 3-4 ครั้งก็พอคะ แต่งดได้ก็ดีนะคะ เพื่อสุขภาพของตัวเราเองด้วย


5.ห้ามงดโปรตีน

          ช่วงที่กำลังลดน้ำหนัก ห้ามงดอาหารประเภทโปรตีนเด็ดขาด เพราะโปรตีนเป็นสารอาหารทีจำเป็นและสำคัญต่อร่างกาย ช่วยในการเจริญเติบโต และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ซึ่งเราสามารถเลือกอาหารประเภทโปรตีนที่มีไขมันต่ำ มารับประทานในช่วงเวลาที่กำลังลดน้ำหนักได้ เช่น เนื้อปลา เต้าหู้ ไข่ไก เนื้ออกไก่ไม่มีหนัง เนื้อวัวหรือเนื้อหมูไม่ติดมัน แล้วก็ต้องเปลี่ยนวิธีการประกอบอาหารจากการทอด ผัด เป็นต้ม หรือนึ่งแทน


6.ของหวานหยุดทานก่อน

         ใครที่มีพฤติกรรมชอบทานอาหารคาว แล้วตบท้ายด้วยของหวานเป็นประจำหลังมื้ออาหารนั้น หากอยู่ในช่วงเวลาการลดน้ำหนัก การดูแลหุ่น ควรงดการทานขนมหวาน น้ำหวาน ขนมเบเกอรี่อย่าง เค้ก ชีสเค้ก โดนัท ฯลฯ แต่ให้เปลี่ยนเป็นผลไม้แทน เช่น มะละกอ ชมพู่ ฝรั่ง แอบเปิ้ล เป็นต้น งดผลไม้ที่มีรสหวาน น้ำตาลเยอะ

         ของหวาน ขนม หากอยากจะทานจริงๆ ให้เปลี่ยนเวลาทานเป็นมื้อเช้า หรือกลางวันแทนคะ


         ซึ่งวิธีที่นำมาแนะนำนี้ เป็นวิธีการควบคุมน้ำหนัก และลดน้ำหนักแบบธรรมชาติ สามารถใช้ร่วมกับการออกกำลังกาย  หรือจะควบคู่การทานอาหารเสริมลดน้ำหนักก็ได้นะคะ จะทำให้ได้ผลดีมากเลยทีเดียว อาหารเสริมลดน้ำหนักควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อย. ปลอดภัยไม่มีสารอันตรายนะคะ

        รับรองว่าถ้าสาวๆท่านไหนปฎิบัติได้ตามคำแนะนำแล้ว ความอ้วนจะไม่มาหาแน่นอนคะ



เรียบเรียงข้อมูลโดย www.balancebyann.com
*ขอบคุณข้อมูลจาก lovefit.com
ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com





อาหารเสริมลดน้ำหนัก BALANCE D+S 
สนใจสินค้า ดูรีวิวเพิ่มเติม คลิ๊กเลย!!
https://balancebyann.blogspot.com/2015/09/balance.html

วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2560

รู้ไว้นะ 10 พฤติกรรมที่ทำให้อ้วน!!




           10 พฤติกรรม ที่ใครหลายคนคุ้นเคย และปฎิบัติกันอยู่เป็นประจำ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้อ้วน หากมีหลายๆข้อ ที่สาวๆท่านไหนปฎิบัติตัวอยู่ ลองพิจารณแล้วปรับแก้ดูนะคะ จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้ และช่วยให้ท่านห่างไกลจากความอ้วนได้แน่นอนคะ

1. ไม่ทานอาหารมื้อเช้า
           มื้อเช้าเป็นมื้อแรกของวันและเป็นมื้อที่สำคัญมากๆ เพราะ ร่างกายต้องใช้อาหารในมื้อนี้เพื่อการพัฒนาสมอง และเพื่อใช้พลังงานในการเรียน ทำงาน เป็นต้น คนที่ไม่ทานมื้อเช้า มักจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานการเรียนลดลง หงุดหงิดง่าย และที่สำคัญทำให้อ้วนง่ายอีกด้วย
           เนื่องจาก มักจะมีสาวๆหลายท่านเข้าใจผิดว่า การงดอาหารเช้าช่วยลดน้ำหนักได้ แต่รู้หรือไม่ว่า การไม่ทานอาหารเช้า อาจจะทำให้ร่างกายหิวมาก และลืมตัวทานเยอะในมื้อถัดไปได้ อย่างมื้อเที่ยงและมื้อเย็น ชึ่งทั้ง มื้อนี้ ร่างกายไม่จำเป็นจะต้องใช้พลังงานมากเท่าไรแล้ว การทานมื้อเที่ยงและมื้อเย็นมาเกินไป ทำให้เกิดการสะสมของไขมันส่วนเกิน และทำให้อ้วนได้ง่ายๆนะคะ ดังนั้นสาวอย่าลืมทานมื้อเช้ากันนะคะ

2. ทานอาหารไม่คำนวณแคลอรี่
           การคำนวณแคลอรี่ในการทานอาหาร ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากหากสาวๆ ทุกท่านกำลังอยากจะลดน้ำหนัก หรือกำลังอยู่ในช่วงการควบคุมน้ำหนักให้หุ่นสวยคงที่ สามารถใช้วิธีการเลือกทานอาหารแบบคำนวณแคลอรี่เป็นตัวช่วยได้ เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบ หมู่ ได้ประโยชน์เต็มที่ แต่แคลอรี่น้อย ซึ่งตอนนี้ก็มีข้อมูลเกี่ยวกับอาหารแต่ละชนิดให้ท่านสามารถค้นหาข้อมูลตามเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อคำนวณปริมาณการทานได้

3.ทานอาหารเร็วเกินไป
          การกินข้าวเร็วมาก แทบจะไม่เสียเวลาเคี้ยว หรือเคี้ยวไม่ละเอียด จะทำให้ไม่รู้สึกอิ่ม เสี่ยงที่จะทานมากเกินกว่าปริมาณที่ต้องการเพราะการกินข้าวเร็วกระเพาะยังไม่ทันรับรู้ถึงความรู้สึกอิ่ม จึงคิดว่ายังรับอาหารได้อีก ดังนั้นการทานแบบค่อยๆกิน จะทำให้อิ่มเร็วขึ้น และได้ปริมาณอาหารที่เหมาะสมกับความหิว แถมยังได้รับรู้ถึงรสชาติอาหารได้ดีกว่าอีกด้วย

4. ดูโทรทัศน์ไป กินไป
           นี้ก็เป็นสาเหตุใหญ่อีกสาเหตุนึงที่ทำให้อ้วน เวลาดูทีวี หรือดูหนัง ถ้าจะให้สนุกต้อง โค๊กกับมันฝรั่งทอด หรือ ป๊อบคอร์น 1 ถังใหญ่ จึงจะได้ความสนุกสนานเพียบพร้อม แต่คุณทราบหรือไม่ เจ้า 2 ตัวนี้ ต่างก็แคลอรี่สูงทั้งคู่เลย ปาเข้าไปไม่ต่ำกว่า 500-700 kcal นี้เฉพาะอาหารว่างนะคะ แล้วที่กินเป็นอาหารหลักอีกหล่ะ ของพวกนี้ เรียกว่า กินแล้วเบรคแตก กินแล้วไม่ค่อยคำนึงเพราะกินไปเรื่อยๆมาเรียงๆ หมด ก็ไปเอามากินอีก ลองเปลี่ยนใหม่ ได้ไหมว่า ดูทีวีดูหนังไป กินผลไม้ไป เป็นการดูทีวีเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริงเครื่องดื่มก็เปลี่ยนเป็นน้ำเปล่าจะดีที่สุด

5. มีนิสัยเสียดายของ
           หลายคนคิดว่า ก็ได้รับการสั่งสอนมาตั้งแต่เด็ก ว่ากินข้าวจะต้องกินให้หมดจานอย่าเหลือทิ้งไว้ สงสารชาวนาที่ปลูกข้าว เต็มไปด้วยความยากลำบากกว่าจะได้ข้าวมาเม็ดหนึ่งพอเรากิน แม้จะอิ่มแล้วแต่ก็ต้องกินให้หมด ข้อนี้ไม่เถียงว่าควรทำ แต่สิ่งที่ควรทำมากกว่าคือการกะปริมาณอาหารให้เหมาะสม เมื่อเป็นคนขี้เสียดาย ก็ต้องตัดใจไม่ซื้อ หรือซื้อแต่พอกิน จะได้ทานไม่มากไป แถมประหยัดเงินอีกต่างหาก

6. เครียดแล้วกิน
           อาการนี้เป็นมากในหลายคน บางคนทำไปโดยไม่รู้ตัว การระบายความเครียดด้วยการกินนั้นอาจส่งผลร้ายแรงถึงขนาดเป็นโรคทางจิต และทำให้เสพติดการบำบัดความเครียดด้วยการกิน ดังเช่นตัวอย่างในชาวต่างชาติไซส์ยักษ์ในต่างประเทศหลายคน ดังนั้นเมื่อเกิดความเครียดให้ลองหากิจกรรมอื่นๆทำ ออกไปเดินในสวน ออกกำลังกาย หรือพูดคุยกับคนรอบข้าง หรือถ้าหาอยากทานมากจริงๆให้เลือกทานเป็นผัก หรือผลไม้แทนการทานอาหารที่มีพลังงานสูงๆจะดีกว่า

7. กินอาหารคาว ต้องตามด้วยของหวาน
           เชื่อว่านิสัยนี้กำลังกระจายในคนส่วนใหญ่ที่เมื่อทานอาหารคาวเสร็จจะต้องมีของหวานมาล้างปาก เพื่อให้ครบสูตรความฟิน หรือการไปทานตามร้านเค้ก ขนมหวานอินเทรนทั้งหลาย นานๆไปทีไม่เป็นไร หรือถ้าคุณดูแลสุขภาพร่างกายดี ก็ไม่ว่า แต่ถ้ากินแบบนี้มาอย่างต่อเนื่องหรือเป็นนิสัยการกินไปแล้วหล่ะก็ ลองเปลี่ยนของหวานเป็นผลไม้ดีกว่า แอปเปิ้ล ฝรั่ง แตงโม หรือผลไม้ที่หวานน้อยๆกน่าจะเป็นทางแก้นิสัยนี้ได้

8.ชอบกินมื้อดึก
           ยังมีหลายท่านทียังนอนดึก เนื่องจากบางท่านอาจกำลังเรียนอยู่ ต้องทำการบ้าน รายงาน หรืออ่านหนังสือจนดึก และก็มักจะมีอาหารตุนไว้สำหรับมื้อดึกเสมอ อย่างขนมขบเคี้ยว ไส้กรอก หรือเมนูยอดฮิตก็คือมาม่า ยิ่งถ้าเป็นคนที่อยู่หอพักด้วย ก็จะมีเพื่อนร่วมห้องร่วมหอชวนกันหาของมากินเสมอ ผลที่ตามมาก็คืออ้วนขึ้นเร็วมาก เพราะจากการวิจัยพบว่าเวลากลางคืนร่างกายของเราไม่ค่อยได้ใช้พลังงาน ถ้าเราทานอาหารในช่วงกลางคืน ร่างกายก็จะไม่มีโอกาสได้เผาผลาญ สิ่งที่เรากินเข้าไปก็จะกลายเป็นไขมันสะสมอยู่ในร่างกายของเราแทนคะ
          ถ้าหากหิวในเวลากลางคืนแนะนำ ดื่มน้ำเปล่า หรือทานกล้วยหอมแทนนะคะ จะได้บรรเทาคลายความหิวได้บ้าง และไม่ทำให้อ้วนด้วย
  
9.ดื่มน้ำน้อย
         การดื่มน้ำให้เพียงพอจำเป็นต่อการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย การดื่มน้ำเป็นการช่วยขับของเสียต่างๆ ออกจากร่างกาย นอกจากนี้การดื่มน้ำยังช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง สดใส มีการทำการทดลองแล้วพบว่าคนที่ดื่มน้ำ 2 แก้วก่อนรับประทานอาหารจะช่วยให้ความอยากอาหารลดลงได้ถึง 30% และทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลงคะ ทฤษฎีนี้ดีต่อใจ สำหรับสาวๆที่ต้องการลดน้ำหนัก ดังนั้นสาวๆคนไหนที่ไม่ค่อยได้ดื่มน้ำ ควรปรับพฤติกรรมด่วนนะคะ

10.ไม่ออกกำลังกาย
        ข้อนี้คือเหตุผลหลักที่ทำให้อ้วนแบบไม่รู้ตัว หลายๆท่านไม่ชอบออกกำลังกายเลย เพราะมักจะอ้างว่าไม่มีเวลา แต่รู้หรือไม่ว่า การออกกำลังกายจริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องเข้าฟิตเนสก็ได้นะคะ อาจจะทำงานบ้าน หรือออกำลังกายด้วยท่าง่ายๆ เช่น ยื่นแกว่งแขนหน้าทีวีประมาณ 1000 ครั้ง เล่นโยคะ เต้นแอโรบิค หรือท่าออกกำลังกายที่สามารถทำตามและหาดูได้จากอินเตอร์เน็ต เพียงแค่นี้ก็สามารถจะเบิร์นไขมันที่สะสมตามร่างกายได้ และก็ทำได้ในช่วงเวลาหลังเลิกงาน วันหยุด เหมาะสำหรับสาวๆทีอยู่คอนโด อพาร์ทเม้นท์ หรือในห้องนอนก็ได้คะ



เรียบเรียงโดย www.balancebyann.com
ขอบคุณข้อมูล จาก dek-d.com และ lovefitt.com
ขอบคุณภาพจาก pixabay.com

อาหารเสริมลดน้ำหนัก Balance D+S
https://balancebyann.blogspot.com/2015/09/balance.html




สุขภาพความงาม,วิธีลดน้ำหนัก,ลดความอ้วน,สาเหตุที่ทำให้อ้วน,ลดน้ำหนัก,อาหารเสริมลดน้ำหนัก,balance d,balance s,ลดน้ำหนักbalance d+s,balance s ราคา,balance d ราคา,balance d+s ราคา

วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2560

รู้หรือไม่สมุนไพรเหล่านี้เพิ่มพลังเพศชาย ให้คุณปึ๋งปั๋งดึ๋งดั๋งได้

          

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาเหล่านี้  นกเขาไม่ขัน  เสื่อมสมรรถภาพ น้องชายเล็ก อาการหลั่งเร็ว หรือหมดอารมณ์ทางเพศ ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายท่าน กังวลเอามาก ๆ  ซึ่งไม่ว่าจะพบแพทย์หรือลองรักษาวิธีไหนก็ยังไม่หายสักที  จนทำให้บางคนเสียความมั่นใจ เกิดปัญหาในชีวิตคู่เลยก็มี
         แต่ท่านเชื่อไหมว่ายังมีสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยให้เซ็กส์กลับมาปึ๋งปั๋งได้ ถ้ายังไม่ทราบว่าสมุนไพรที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง ลองไปดูพร้อม ๆ กันเลยคะ

1.กวาวเครือแดง
          กวาวเครือแดง เป็นสมุนไพรไทยหายากที่มีสารที่ทำหน้าที่คล้ายฮอร์โมนเพศชาย โดยสารสกัดของสมุนไพรชนิดนี้ช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศและขยายหลอดเลือดในอวัยวะเพศชายได้ ซึ่งมีผลทำให้เจ้าโลกมีขนาดใหญ่ขึ้น ที่สำคัญยังช่วยให้หนุ่ม ๆ บรรเลงเพลงรักได้อึดมากกว่าเดิมด้วย

2.หมามุ่ย
          แค่ได้ยินชื่อของสมุนไพรตัวนี้ อาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกคันไปตาม ๆ กัน ทว่าหมามุ่ยมีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ชายอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งช่วยกระตุ้นความต้องการในเรื่องเซ็กส์ เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ และทำให้อวัยวะเพศชายใหญ่ขึ้น รวมถึงช่วยเสริมความแข็งแรงและเพิ่มปริมาณของอสุจิด้วยในคราวเดียว

3.หญ้าแพะหงี่
          ในสารสกัดของหญ้าแพะหงี่อุดมไปด้วยสารอินคาริน สำหรับเพิ่มระดับไนตริกออกไซด์ในเลือด ซึ่งช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและกระตุ้นให้การไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศชาย ส่งผลให้เจ้าโลกใหญ่ขึ้นและเพิ่มความต้องการทางเพศไปพร้อมกัน โดยมีให้เลือกใช้ทั้งแบบน้ำมันสกัดและผงสำหรับชงดื่มกับชา

4.รากปลาไหลเผือก
          รากปลาไหลเผือกเป็นสมุนไพรที่ดีต่อคุณผู้ชายมากเลยทีเดียว เพราะมีสรรพคุณที่จะช่วยกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน เพิ่มจำนวนของอสุจิ และชะลอการหลั่งเพื่อเซ็กส์ที่ยาวนานขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของอาหารเสริม

5.รากกระชาย
          สำหรับกระชายจัดว่าเป็นสมุนไพรที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ กินแล้วรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ทำให้เจริญอาหาร และบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามตัวได้ ส่วนรากกระชาย ต้องบอกเลยว่าเด็ดมาก ๆ เพราะช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ทำให้น้องชายปึ๋งปั๋งพร้อมทำกิจกรรมบนเตียง

6.ถั่งเช่า
          ในรอบหลายปีที่ผ่านมา ถั่งเช่า ถือเป็นสมุนไพรที่มาแรงในหมู่ผู้ชายเลยก็ว่าได้ ด้วยสรรพคุณอันโดดเด่นที่ช่วยรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศให้ดีขึ้น เพิ่มปริมาณอสุจิ รวมถึงกระตุ้นความต้องการทางเพศ อีกทั้งยังมีประโยชน์ด้านอื่น ๆ เช่น ลดไขมันในเลือด ต้านมะเร็ง และลดระดับน้ำตาลในเลือด เป็นต้น 

7.ใบแปะก๊วย
          ใบแปะก๊วยถูกยกให้เป็นสมุนไพรที่เด่นในเรื่องของการบำรุงเลือด ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น ช่วยบำรุงเซ็กส์ แก้อาการนกเขาไม่ขัน ทำให้เจ้าโลกแข็งตัวได้ไว และทำศึกรักได้นานขึ้น

8.พริกไทยดำ
           นอกจากเป็นเครื่องชูรสในการปรุงอาหารของชาติต่าง ๆ แล้ว ยังมีประโยชน์ชนิดครอบจักรวาล ตั้งแต่การบำบัดโรคภัยไข้เจ็บสารพัด มีคุณสมบัติในการลดความดันโลหิตสูง, โรคกระเพาะ, ริดสีดวงทวาร, โรคหัวใจ, ห้ามเลือด, ลดความอ้วน, แก้หัวล้านและที่สำคัญที่สุดคือ มีสารไมริสทินซึ่งกระตุ้นทางเพศ สารตัวนี้ในกระเทียมก็มี แต่น้อยกว่าพริกไทย

9.กระเทียม
           กระเทียม คือสมุนไพรไทยและเครื่องเทศน์ที่ใครหลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแล้ว ยังอุดมไปด้วยสารอัลลิซินที่ช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปที่อวัยวะเพศได้ดีขึ้น ส่งผลให้น้องชายมีสุขภาพที่ดีนั่นเอง

10.โสม
          โสม เป็นสมุนไพรโบราณที่ช่วยบำรุงสุขภาพ กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนสำคัญที่ช่วยลดความเครียดได้ ช่วยบำรุงการทำงานของหัวใจให้อยู่ในระดับปกติ แถมยังมีสรรพคุณช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศและขยายหลอดเลือดบริเวณอวัยวะเพศ เพื่อให้เลือดไปหล่อเลี้ยงได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งช่วยให้น้องชายแข็งตัวและอึดขึ้นกว่าเดิม

11.ว่านโด่ไม่รู้ล้ม
           เป็นพืชสมุนไพร ที่มีสรรพคุณเสริมสมรรถภาพทางเพศ ช่วยบำรุงกำลัง ลดความดันโลหิต ช่วยเพิ่มคุณภาพอสุจิ เพิ่มขนาดและความแข็งแรงของอวัยวะเพศ  เหมาะสำหรับคนมีบุตรยาก

12.กระชายดำ
           มีสรรพคุณทางยาในด้านการเพิ่มฮอร์โมนทางเพศ 33% (มากกว่าโสมเกาหลี) เช่น แก้กามตาย ทำให้กระชุ่มกระชวยบำรุงความกำหนัด สรรพคุณอื่นคือ รักษาโรคเบาหวาน, ลดน้ำตาลในเลือด, โรคความดันโลหิตสูง, ช่วยระบบการย่อยอาหาร, รักษาโรคลำไส้อักเสบช่วยระบบการหมุนเวียนของโลหิต รักษาโรคตกขาวในสตรี และโรคริดสีดวงทวารหนัก

          เมื่อทราบถึงสรรพคุณของสมุนไพรเหล่านี้แล้ว  หากท่านไหนสนใจอยากนำสมุนไพรเหล่านี้มาใช้  ควรศึกษาเรื่องสรรพคุณของสมุนไพรต่าง ๆ ให้ละเอียด หรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้วยก็ดีนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก 
men.mthai.com
men.kapook.com
ขอบคุณภาพประกอบจาก  pxabay.com



อาหารเสริมผู้ชายBalance X ข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊กที่รูปเลย!!
https://balancebyann.blogspot.com/2016/03/balance-x.html